

เครดิตรูป : https://www.matichon.co.th/region/news_409169
ปัจจุบันการทำประกันความรับผิดชอบของผู้ขนส่ง หรือ “ประกันสินค้า” เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับพี่ ๆ ขนส่งที่รับงานขนส่งสินค้าจากเจ้าของสินค้าเพื่อคุ้มครองสินค้าขณะขนส่ง แม้เกิดเหตุไม่คาดฝันส่งผลให้ตัวสินค้าเกิดความเสียหาย ก็อุ่นใจได้เพราะไม่ต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นแบบเต็มมูลค่า
อย่างไรก็ตามเมื่อมีเหตุที่ส่งผลให้สินค้าเสียหายเกิดขึ้น ผู้ขนส่งหลายคนกลับพบว่า ทางเจ้าหน้าที่ประกันภัยกลับมีการเรียกเก็บค่า ความเสียหายส่วนแรก (Deductible) จึงเป็นที่มาของคำถามของหลาย ๆ ท่านที่ว่า ทำไมเราต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มเติม บางคนอาจคิดไปถึงขั้นที่ว่า หากมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายนี้เพิ่มเติม แล้วเราจะทำประกันภัยสินค้าไปทำไม ทาง 360TRUCK แพลตฟอร์มหางานขนส่งรถบรรทุก จึงอยากชวนพี่ ๆ ผู้ขนส่งมาอ่านบทความเพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กันครับ
จริง ๆ แล้วสำหรับเรื่องค่า ความเสียหายส่วนแรก นั้น ต้องยอมรับว่ามีผู้เอาประกันหลายท่านที่ยังไม่มีความรู้ ความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของการเรียกเก็บเงินในส่วนนี้ 360TRUCK จึงขออธิบายแบบสั้น ๆ เข้าใจง่ายดังนี้ครับ
กรณีที่ผู้ขนส่งไม่ต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก
เหตุการณ์แรก : ผู้ขนส่งเกิดอุบัติเหตุ มีคู่กรณี และไม่มีความผิดตามกฏหมายและหลักจราจร เช่น คู่กรณีเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่ ขับรถมาชนเรา แล้วสินค้าเกิดความเสียหาย ในกรณีนี้ ทางประกันภัยจะไม่เรียกเก็บค่าความเสียหายส่วนแรกครับ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ขนส่ง
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทางประกันภัยอาจอนุโลมให้ จะเป็นเหตุที่เกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ฝนตกหนักจนไม่เห็นถนนหรือสิ่งกีดขวางจนเกิดอุบัติเหตุ (ขับรถไม่เกินความเร็วตามกฏมายกำหนด) แต่ทางที่ดีหากผู้ขนส่งพิจารณาว่าการขับขี่นี้มีความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุ 360TRUCK ขอเสนอให้โทรแจ้งให้เจ้าของสินค้าต้นทาง – ปลายทางรับทราบถึงสถานการณ์ และค่อย ๆ ขับรถอย่างปลอดภัยจะดีกว่าครับ ตัวไม่เจ็บ รถไม่เสี่ยง สินค้าไม่เสียหายด้วยครับ
กรณีที่ผู้ขนส่งต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก
เหตุการณ์ที่สอง : อุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ขนส่งเอง เช่น การเมาแล้วขับ อุปกรณ์ safety ไม่ครบถ้วน เช่น ใช้ผ้าใบสินค้าที่ฉีกขาด ไม่สมบูรณ์ ยางรถสึกหรอ หรือไม่เก็บสินค้าในบรรจุภัณฑ์ หรือวางสินค้าบนรถบรรทุกไม่ตรงตามมาตรฐานของเจ้าของสินค้า หากเกิดอุบัติเหตุ ทางประกันภัยจะมีการเก็บค่าความเสียหายส่วนแรกตามที่กรมธรรม์ระบุไว้เช่น 10% ของมูลค่าสินค้าที่ขนส่ง หรือขั้นต่ำ 5,000 บาท แล้วแต่ตามกรมธรรม์ความคุ้มครองของแต่ละกรมธรรม์
สรุปบทความ
การทำประกันสินค้า แน่นอนว่าเป็นการทำประกันภัยเพื่อซื้อทั้งความสบายใจและความคุ้มครองของผู้ขนส่งเมื่อรับงานจากเจ้าของสินค้า อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประกันสินค้าแล้ว ตัวของผู้ขนส่งเองก็ยังคงต้องหมั่นตรวจสอบสภาพรถ สภาพสินค้าที่ขนส่ง อุปกรณ์ รวมไปถึงการจัดวางสินค้าให้ถูกต้องตามมาตรฐาน ไม่เช่นนั้น หากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้สินค้าเสียหาย ก็อาจจะต้องเสียค่าความเสียหายส่วนแรกได้ 10% จากมูลค่าความเสียหาย 100% ดังนั้น หากผู้ขนส่งอยากตัวไม่เจ็บ รถไม่เสี่ยง สินค้าไม่เสียหาย ต้องหมั่นตรวจสอบความพร้อมในการวิ่งงานขนส่งของตน และขับขี่อย่างปลอดภัยด้วยนะครับ
สำหรับผู้ขนส่งท่านใดที่สนใจทำประกันสินค้ารายปีด่วน ได้กรมธรรม์รับรองพร้อมรับงานภายใน 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อได้ที่ LINE เพิ่มเพื่อนคลิก