การขนส่งโดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น ประเภทรถบรรทุก ใหญ่ๆ ได้ 3 ประเภทรถบรรทุก คือ การขนส่งทางบก ( รถบรรทุก ) การขนส่งทางน้ำ (เรือ) และการขนส่งทางอากาศ (เครื่องบิน) ซึ่งการขนส่งในสมัยก่อนที่นิยมใช้ในการขนส่งไปต่างประเทศ
เช่น ประเทศจีนหรือประเทศที่อยู่ในเอเชียก็มักจะเป็นรถไฟหรือเรือ แต่ในปัจจุบันเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้นทำให้เกิดเส้นทางการเดินรถที่สะดวกยิ่งขึ้นอย่างการเส้นทางเศรษฐกิจ CLMV ที่มาจากกลุ่มประเทศ กัมพูชา ลาว เวียดนาม และพม่า ในภูมิภาคอาเซียน
ทำให้การขนส่งที่เป็นรถยนต์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่าในปัจจุบัน เนื่องจากการขนส่งไปต่างประเทศ อย่างเช่น ประเทศจีนโดยใช้รถยนต์นั้นสามารถให้บริการที่คล่องตัวและรวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับการขนส่งโดยเรือ และยังมีค่าขนส่งที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องบิน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การขนส่งโดยรถยนต์กลายเป็นทางเลือกหลักที่เป็นที่นิยมใช้มากขึ้น
ทาง 360TRUCK ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ระบบการขนส่งทาง รถบรรทุก ดีขึ้นเพื่อตอบสนองในทิศทางเศรษฐกิจและการขนส่งที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การขนส่งทางถนน หรือการขนส่งโดย รถบรรทุก
ถือเป็น Mode หลักสำคัญในการขนส่งทางบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) โดยจากการขนส่งทั้งหมดเป็นการขนส่งด้วยรถบรรทุกถึง 82% การเติบโตอย่างมากของการขนส่งทางถนน ทำให้ในศตวรรษที่ผ่านมามีการ สร้าง ขยาย และต่อเติมโครงข่ายถนนมาโดยตลอดและยังคงเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
การเชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ เชื่อมโยงกันทั่วภูมิภาค ทำให้การขนส่งทางรถยนต์หรือรถบรรทุก เป็น Mode ที่มีความสะดวก คล่องตัว และพร้อมรองรับปริมาณการขนส่งได้ดีกว่าการขนส่งทางบกอื่นๆ ทุกประเภท จึงไม่เป็นที่แปลกใจนักที่การขนส่งทางรถยนต์ รถบรรทุกจะเป็นที่นิยมมากที่สุดใน Southeast Asia
สามารถ ดาวน์โหลดแอป สำหรับใช้บริการที่ทาง 360TRUCK ให้บริการขนส่งด้วยรถบรรทุก สามารถที่จะแบ่งเป็นประเภทรถ ได้ดังนี้


รถ 4 ล้อ
รถ 4 ล้อหรือรถกระบะถือเป็นประเภทรถ “ยอดฮิต” ที่ธุรกิจ “SME” เลือกใช้สำหรับการส่งสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีขนาด order การสั่งซื้อขนาดเล็กแต่สั่งบ่อยครั้ง เนื่องจากรถ 4 ล้อมีขนาดรถที่ไม่ใหญ่มาก จึงทำให้มีความคล่องตัวสูงกว่ารถบรรทุกประเภทอื่นในการเดินทาง สามารถเข้าในเขตเมืองได้ไม่ติดเวลา (Truck ban) และส่งสินค้าตามร้านค้าต่างๆที่มีพื้นที่จำกัดได้ โดยบรรทุกได้ครั้งละประมาณ 1-3 ตัน
ประเภทรถที่นิยมใช้
- 4 ล้อคอกคลุมผ้าใบ : ส่วนใหญ่จะนิยมใช้สำหรับการขนสินค้าประเภทพืช ผักผลไม้ และสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ที่ต้องการปริมาตรบรรทุกที่เยอะกว่า รถ 4 ล้อตู้
- 4 ล้อตู้ทึบ : นิยมใช้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ ต้องการความปลอดภัย สินค้ามีโอกาสสูญหายได้ง่าย อาจต้องมีการเปิดตู้เพื่อไปลงหลายจุด เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, สินค้าอุปโภคบริโภค, สินค้าที่ไม่ชอบความชื้น


รถ 6 ล้อ
เจ้าของสินค้า (Shipper) มีโรงงานขนาดเล็กถึงขนาดกลาง หรือเป็นศูนย์การกระจายสินค้าที่ต้องการส่งสินค้าไปยังสาขาต่างๆ หรือต้องการขนย้ายของหรือย้ายบ้านและสินค้าที่นิยมใช้ 6 ล้อขนส่งจะมีสินค้าเกี่ยวกับการ อุปโภคบริโภค และวัสดุก่อสร้าง เนื่องจาก 6 ล้อปัจจุบันมีขนาดที่ใกล้เคียงกับรถ 10 ล้อ มีต้นทุนค่าขนส่งต่อเที่ยวที่ต่ำกว่า ดังนั้น รถหกล้อจึงเหมาะกับสินค้าประเภทดังที่กล่าวมาข้างต้น คือมีปริมาตรมาก แต่น้ำหนักไม่มาก
ประเภทรถที่นิยมใช้
- พื้นเรียบ: นิยมใช้ขนส่งสินค้าวัสดุก่อสร้าง โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 6 ตัน
- คอก: ใช้ขนสินค้าเกษตร โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 8 ตัน
- ตู้ทึบ: ขนส่งสินค้าที่ไม่สามารถเปียกน้ำได้ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 6 ตัน


รถ 10 ล้อ
ประเภทรถที่ได้ชื่อว่า “ขวัญใจ” สินค้าเกษตร ก่อสร้าง ขนดิน ขนแร่ต่างๆ โดยเฉพาะรถ 10 ล้อดัมพ์ จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในกลุ่มสินค้าที่ต้องเทกอง (BULK) และกลุ่มสินค้าที่เป็นอุตสาหกรรมหนักหรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
10 ล้อ เหมาะสำหรับการขนย้ายสินค้าหรือขนส่งสินค้าที่มีปริมาณเยอะๆและมีน้ำหนักมากๆ เพราะเป็นรถขนาดใหญ่ที่สามารถรับน้ำหนักสิ่งของได้เยอะ เช่น วัสดุก่อสร้าง สินค้าจากโรงงาน หรืออุปกรณ์สำนักงานที่มีขนาดใหญ่ และเครื่องจักรกลต่างๆ
ประเภทรถที่นิยมใช้
- พื้นเรียบ : น้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 15 ตัน
- คอกดัมพ์/ไม่ดัมพ์ : น้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 15 ตัน
- ตู้ทึบ : น้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 14.5 ตัน


รถพ่วง
ประเภทรถพ่วงนั้นเหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าครั้งละมากๆ และตัวอย่างสินค้าที่ใช้รถประเภทนี้ คือ อุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ และสินค้าที่นิยมในการใช้คืออุตสาหกรรมเกษตร อย่างพวก น้ำตาล ยางพารา อาหารสัตว์ ฯลฯ โดยเฉพาะสินค้าเทกองจะเป็นที่นิยมอย่างมาก
ประเภทรถที่นิยมใช้
รถพ่วงพื้นเรียบ, รถพ่วงตู้, รถพ่วงคอกดัมพ์, รถพ่วงคอก = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 30 ตัน


รถกึ่งพ่วง หรือ Semi-Trailer
เป็นประเภทรถที่ใครหลายคนอาจจะรู้จักกันในนามของ “รถเทรลเลอร์” และสาเหตุที่หลายคนเรียกแบบนั้นเกิดจากการที่รถประเภทนี้มีหัวเป็นตัวขับเคลื่อนและมีหาง (Trailer) ที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ รถประเภทนี้จะเหมาะสมกับสินค้าพวก JUMBO Pallet สำหรับรถประเภทนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นเนื่องจากรถประเภทนี้มีผ้าใบคลุม
ประเภทรถที่นิยมใช้
รถเทรลเลอร์พื้นเรียบ, รถเทรลเลอร์คอกดัมพ์ = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 30 ตัน


รถลากตู้คอนเทนเนอร์
รถลากตู้หรือที่หลายคนเรียกกันจนติดปากว่า “รถหัวลาก” รถลากตู้ประเภทนี้จะนิยมใช้ในกลุ่ม การนำเข้า – ส่งออกสินค้าจากต่างประเทศ ที่อยู่ตามท่าเรือขนส่งต่างๆ และเนื่องจากสามารถขนย้ายสินค้าได้จำนวนมาก
ประเภทรถที่นิยมใช้
- Dry 20 ฟุต = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 28 ตัน
- Dry 40 ฟุต = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 28.5 ตัน
- Reefer 20 ฟุต = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 27.5 ตัน
- Reefer 40 ฟุต = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 29 ตัน
จากประเภทรถทั้ง 6 ประเภทที่ได้กล่าวถึงไปข้างต้นนั้น หากธุรกิจของคุณมีความต้องการใช้งาน แต่ยังไม่รู้จะหารถขนส่งที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพ และยังสามารถช่วยประหยัดต้นทุนการขนส่งของคุณได้จากที่ไหน คุณสามารถให้ 360TRUCK ช่วยคุณได้ เพราะ 360TRUCK มีรถบรรทุกทางรถยนต์หลากหลายประเภทพร้อมให้บริการและมีประกันสินค้าทุกเที่ยวรถ!!